วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เทคนิคการทำงานแล้วได้เงินดี

จบวิศวะ เครื่องกล พระจอมเกล้า พระนครเหนือ ตอนนี้อายุ 28 ทำงานมา 3 ปี ย้าย
งานมา ทั้งหมดก็6 บริษัท เสต็ปเงินเดือนนะครับ
- 8,000 โรงงานคนไทย (Design Engineer) สิบเดือน
- 15,500 บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น (Design Engineer) สี่เดือน เลื่อนตำแหน่งไปหนึ่งครั้ง
- 30,000 บริษัทฝรั่ง A (Design Engineer) หนึ่งปีเงินเดือนขึ้นสองรอบ
- 35,000 โรงงานฝรั่ง (Design Engineer) สามเดือน
- 40,000 บริษัทฝรั่ง B (Project Engineer) สี่เดือน เลื่อนตำแหน่งไปหนึ่งครั้ง
- 6x,xxx บริษัทฝรั่ง C (Project Engineer) สามเดือน
- 1xx,xxx บริษัทฝรั่ง C (Project Manager) เพิ่งเลื่อนตำแหน่งเมื่อวาน

อยากจะบอกว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เวลาที่ทำงาน จะต้องคอยสังเกตและศึกษาอยู่ตลอดว่า งานที่เรารับมาทำนั้น มันมาจากไหน มาจากใคร และ ไปไหนต่อ ไปยังไง ใครตรวจสอบเพื่อดูว่าตำแหน่งที่สูงกว่าเรานั้น เค้ารับผิดชอบเรื่องอะไร พยายามเรียนรู้ให้ไดว่าเรายังขาดอะไรอีกในการเลื่อนตำแหน่ง มันไม่ยากอย่างที่หลายๆคนเข้าใจนะครับเหมือนคนจีนว่า อย่าถามว่าเมื่อไรจึงจะได้เลื่อตำแหน่งแต่ให้ถามว่า หากได้เลื่อนตำแหน่งวันนี้ เรามีความสามารถพร้อมกับตำแหน่งนั้นๆหรือยังผมเองก็ทำตามที่กล่าวมาข้างต้น พอมีโอกาสให้รีบเสนอตัวทันทีไม่ต้องรอ ถ้าคิดว่าพร้อมโดยส่วนมากจะได้ตามที่เสนอ แต่ต้องย้ำว่าพร้อมจริงๆนะครับ

คิดว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะครับ สำหรับคนจบใหม่ หรือ กำลังทำงานอยู่

อธิบายเพิ่มเติมให้แล้วกันนะครับ เผื่อเป็นแนวทาง

- 8,000 โรงงานคนไทย (Design Engineer) สิบเดือนอันนี้ไม่มีอะไร ปรกติ เพิ่งจบ กำลังเรียนรู้ระบบ ลาออกเพราะเงินเดือนน้อย
- 15,500 บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น (Design Engineer) สี่เดือน เลื่อนตำแหน่งไปหนึ่งครั้งเดินเข้าไปคุยกับญี่ปุ่น ว่าผมทำงานตำแหน่ง senior design engineer ได้ เพราะว่าพร้อม และอธิบายเค้าว่า พร้อมยังไง เค้าก็โอเค ลาออกเพราะได้ที่ใหม่ เงินเดือนเยอะกว่า ที่สำคัญ เป็นบริษัทฝรั่ง

- 30,000 บริษัทฝรั่ง A (Design Engineer) หนึ่งปีเงินเดือนขึ้นสองรอบขึ้นรอบแรกตอนผ่านโปรสามเดือน หลังจากนั้นอีกหกเดือนเงินเดือนขึ้นอีกรอบ เพราะว่าเดินเข้าไปคุยกับหัวหน้า เสนอตัวเองรับหน้าที่เพิ่มเติมจาก job description และอธิบายอีกครั้งว่าพร้อมยังไงเค้าก็โอเค ลาออกเพราะหัวหน้างานเริ่มงี่เง่ามาก ทนไม่ไหว

- 35,000 โรงงานฝรั่ง (Design Engineer) สามเดือนอันนี้ปรกติ ออกเพราะว่ามันไกลบ้านมาก เดินทางไม่ไหว

- 40,000 บริษัทฝรั่ง B (Project Engineer) สี่เดือน เลื่อนตำแหน่งไปหนึ่งครั้งอันนี้เข้ามาเป็นตำแหน่งใหม่เป็นครั้งแรก หลังจากทำงานในตำแหน่ง designengineer มาหลายที่แล้ว เลยสมัครเป็น project engineer เพื่อดูภาพรวมของ project หลังจากนั้นบังเอิญที่บริษัทมีproject นึง ที่ติดค้างส่งมอบให้ลูกค้ามานานมาก และไม่มีใครอยากรับไปทำต่อ ลูกค้า
โกรธมากๆ ผมก็เลยเสนอตัวเองรับงานนี้ไปดู พร้อมกับข้อเสนอ (ตำแหน่งใหม่ เป็น Projectmanager แต่เงินเดือนเท่าเดิม เพราะว่าต้องการ referent ในตำแหน่ง project manager ไว้หางานใหม่)
ลาออกเพราะว่าหัวหน้าเป็นฝรั่ง ลูกค้าเป็นคนไทย ลูกน้องก็เป็นคนไทย น่าเบื่อมาก

- 6x,xxx บริษัทฝรั่ง C (Project Engineer) สามเดือนงานที่นี่มันส์มาก ลุยกันสุดๆ ลูกค้าส่วนากอยู่ที่ต่างประเทศ ต้องเดินทางไปประกอบและติดตั้ง setupโรงงานตามไซด์งานต่างๆ

- 1xx,xxx บริษัทฝรั่ง C (Project Manager) เพิ่งเลื่อนตำแหน่งเมื่อวานและเช่นเคย มีงานใหม่เข้ามา priject ใหญ่พอสมควร แต่ว่างานล้นมือกันทุกคน PMที่มีอยู่ก็ติดงานอื่นเลยคุยกับเจ้าของบริษัท บอกว่าเราทำได้ ขอทำ เค้าก็คุยกับ PM ที่เหลือ ทุกคนOK ก็เลยเพิ่งเลื่อนนี่แหละครับคนไม่เชื่อ ทำยังไงก็ไม่เชื่อลองมองดูรอบๆที่ทำงานสิครับ เห็นคนอายุน้อยตำแหน่งสูงบ้างมั้ย
ลองไปถามดูสิครับว่าเค้าทำยังไง ดีกว่าคอยนั่งนินทา แล้วก็อิจฉาเค้าไปวันๆ
ที่ผมอยู่ที่แรก เงินเดือน 8,000 ได้ตั้งปี เพราะว่าผมได้ทำงานอยู่ในห้องเดียวกับผู้จัดการโรงงาน เห็นเค้าว่างเมื่อไรผมถามแหลก ว่าแกขึ้นตำแหน่งนี้มาได้ยังไง ต้องรู้อะไรบ้าง บุคลิคจำเป็นมั้ย บลา บลาบลาแล้วสุดท้ายผมก็ได้แกเป็นต้นแบบ ทำตามที่แกแนะนำทุกอย่าง ทุกวันนี้ยังโทรคุยกับแกอยู่เลยครับ

ที่บริษัทญี่ปุ่นนั้น เสต็ปมันจะไม่เหมือนกันครับผมทำได้สองเดือนแรก ผมยื่นใบลาออก ทนไม่ไหว กลับดึกเงินเดือนน้อย ตามสไตล์ญี่ปุ่น หัวหน้าคนไทยกับคนญี่ปุ่นเรียกมาคุยบอกว่าไม่อยากให้ออก ยูทำงานเร็วมาก ผมบอกไอ้คนที่เข้ามาพร้อมกัน มันทำช้า ไม่เห็นใครว่าไร เงินเดือนเท่ากัน ไม่แฟร์ เค้าบอกทนๆไปก่อนเดี๋ยวสิ้นปีจะเลื่อนให้เป็น senoir เค้าจะ support ให้ผมบอกไม่ไหว นานไป ก็เลยถามเค้า senior เงินเดือนเท่าไร เค้าบอกมา ผมก็ว่าใช้ได้ 2x,xxx ก็เลยถามเค้าว่า senior ต้องทำอะไรได้บ้าง เขียนมาเลยเป็นข้อๆ แล้วผมจะรีบศึกษาถ้าทำได้ตามนี้เมื่อไร ยูต้องปรับไอขึ้นนะ เค้าโอเค หลังจากนั้น หัวหน้าญี่ปุ่นเค้าก็เริมโยนงานของ senior มาให้ทำมากขึ้นเรื่อยๆ ครบสองเดือนก็เลื่อนครับ แต่พอดีที่ใหม่เค้ายื่นมา 30,000 เลยออกทันทีเลยครับ

งานที่สุดท้ายเป็นลักษณะงานแบบเป็น project ๆ ไป แล้วแต่ลูกค้าส่วนมากจะอยู่ที่ต่างประเทศ ระยะเวลาก็แตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 1 ปี คนที่คุมงานโดยรวม Project Manager ท่านอื่นๆ ก็จะรับงานไปดูแลส่วนมากไม่เกิน3 งาน ในเวลา
เดียวกันทีนี้ โดยนิสัยฝรั่ง ถ้าเรากล้าขอ มันก็กล้าให้ (ถ้าไม่เสี่ยงมาก) ถ้าทำได้ก็ทำต่อไป ถ้าขอแล้วทำไม่ได้อันนี้ลาออกสถานเดียวนะครับ พอดีจังหวะงานใหม่ที่เข้ามา ผมเป็นคนไปประชุมพร้อมกับเจ้าของมาแล้วหลายๆครั้ง รู้ที่มา ที่ไปเกือบทั้งหมด งานในส่วนที่ผมรับผิดชอบมันเริ่มล้าช้า ผมเลยถามว่าทำไมช้อมูลมันมาช้า ผมทำงานต่อไม่ได้ เจ้าของก็บอกว่าคนอื่นๆเค้างานยุ่งกันหมด ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพงานนี้เลย ผมเลยกลับมาคิด ดูรอบๆด้สนแล้วน่าจะเอาอยู่ เลยเข้าไปคุยกับเจ้าของ อธิบายว่า ถ้าให้เราคุม เราจะทำอย่างไร ขั้นตอน แผนงานเป็นยังไง เค้าขอเวลาคุยกับ Project Manager ท่านอื่นๆก่อน (มีอีก 2 คน) ระหว่างนั้นผมก็รีบ
โทรหาทั้งสองท่านทันที บอกเค้าว่าเราทำได้ อยากให้ช่วยสนับสนุนหน่อย ทั้งสองท่านก็บอกว่ามันเหนื่อยนะแต่ถ้ายูอยากลอง ไอคิดว่ายูพอได้ แล้วเจ้าของเค้าก็บอกว่าโอเค ลุยได้เลย แล้วก็ยื่นเงินเดือนใหม่มาให้ เท่านี้อ่ะครับ ตอนนี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน.

ใครทำงานกับฝรั่ง ลองดูก็ได้ครับ

มีอยู่คนนึง ผมนั่งสัมภาษณ์เค้าเข้าทำงาน นั่งกับ PM อีกคน คุยไปคุยมาพอถามเรื่องเงินเดือน พี่แกหันมาพูดไทยกับผมเฉยเลย ถามว่าผมได้เท่าไร ประมาณว่า กะว่าฝรั่งมันคงฟังไทยไม่รู้เรื่องมั้งผมก็บอก คุณอยากได้เท่าไรล่ะครับ ว่ามาเลยเค้าก็ย้ำอีก ถามว่าผมได้เท่าไรล่ะ กะว่าจะได้เรียกให้ใกล้เคียงกันมั้ง เลยบอกเค้าว่า เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมให้คุณ 1 ล้าน คุณเอามั้ย เค้าบอกเอาครับ พี่ล้อเล่นรึเปล่า ผมบอกเปล่า พูดจริงๆ แต่ต้องตอบคำถามพี่ข้อนึงนะ เค้าบอก ถามมาเลยครับ ผมถาม 'ไหนลองอธิบายให้ฟังหน่อย ว่าคุณจะทำเงินให้บริษัท มากกว่าเดือนละ 1 ล้านได้ยังไง'
เค้าบอก งั้นผมขอเงินเดือน 17,000 พอคับ ผมเข้าใจแล้ว

ผมทำ EPCM ครับ แนว ปรึกษา , ออกแบบ , วางระบบ , สร้าง , Setup ระบบเกี่ยวกับ Gasทุกชนิด เพื่อปั่นไฟฟ้า ตามไซด์งานลูกค้าครับ

แถมให้หน่อย
เจ้าของบริษัทเค้าเคยบอกผมว่า คุณรู้มั้ย มืออาชีพ ต่างกับมือสมัครเล่นตรงไหน ? ผมบอกไม่รู้ครับเค้าบอกว่า

มือสมัครเล่น จะทำงานไม่สำเร็จ แม้ว่าเค้าอยากจะทำงานนั้นมากแค่ไหนก็ตาม และมีเหตุผลร้อยพัน ว่าทำไมมันถึงไม่สำเร็จ

ส่วนมืออาชีพนั้น จะทำงานสำเร็จเสมอ แม้ว่าเค้าจะไม่อยากทำงานนั้นๆเลยก็ตาม ไม่ว่าจะเบื่อหน่าย เหนื่อย ใดๆก็ตามแต่ งานจะเสร็จเสมอ แม้ว่าบางครั้งเค้าก็บอกเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน

น่าจะมีประโยชน์ครับ เอามาแชร์

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2551

บริษัทญี่ปุ่นสุดเจ๋งให้สิทธิพนักงานอกหักลาหยุดได้

ซีอีโอหญิงบริษัทญี่ปุ่นออกไอเดียสุดโดนใจพนักงาน อนุญาติให้ลาหยุดเพราะอกหักได้ ถือเป็นของขวัญล่าสุดที่มอบให้แก่พนักงาน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ว่า บริษัทไฮมส์ แอนด์ คอมพานี เป็นกิจการด้านจำหน่ายอุปกรณ์รีไซเคิล ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น ได้ออกกฎระเบียบใหม่เอาใจพนักงาน ด้วยการอนุญาตให้พนักงานสามารถลาหยุดได้ในกรณีอกหักกับแฟน โดยในกรณีพนักงานอายุต่ำกว่า 24 ปี จะสามารถหาหยุดได้ 1 วัน พนักงานอายุ 25-29 ปี ได้ 2 วัน แต่หากอายุมากกว่านั้น คือ 30 ปีขึ้นไป จะลาหยุดได้ 3 วัน โดยนางมิกิ ฮิราดาเตะ ให้เหตุผลการให้พนักงานแต่ละวันหยุดไม่เท่ากันกรณีอกหักว่า เพราะพนักงานรุ่นหนุ่มสาววัย 20 ถ้าอกหักแล้ว ก็สามารถจะหายได้เร็วเพราะมีโอกาสหาแฟนใหม่ได้ง่าย แต่หากเป็นพนักงานรุ่นสูงวัยแล้ว โอกาสหาแฟนใหม่จะทำได้ยากกว่า และถือว่าคนพวกนี้จะต้องอกหักหนักกว่า
"ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ลาหยุด แต่เฉพาะคนที่อกหักเท่านั้น เพราะคนเราก็จำเป็นมีเวลาพักหัวใจกันบ้าง" นางมิกิ ผู้บริหารบริษัทแห่งนี้กล่าว
รายงานกล่าวว่า นอกจากการมอบสิทธิสุดโดนใจพนักงานดังกล่าวแล้ว บริษัทแห่งนี้ยังได้ให้สิทธิพนักงานในการลาหยุด 4 วันต่อปีเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้าได้อย่างเต็มที่ โดยนางมิกิบอกว่า เพื่อแก้ปัญหาพนักงานหญิงต้องใช้เวลาช็อปปิ้งและขนของเข้าบ้านอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านม

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551

คนคือทรัพยากรมีค่าที่สุดในโลก

จาก หนังสือ “คำสอนจาก เทียม โชควัฒนา” โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ (พฤษภาคม 2550)
ชีวิตของคนที่ทำงานต่างๆ นั้นเปรียบดังต้นไม้นานาพันธุ์ ที่บางพันธุ์ก็โตช้า บางพันธุ์ก็โตเร็ว ก่อนหน้านี้สหพัฒนฯ ก็เคยเป็นต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ที่โตอย่างช้า ๆ และ บัดนี้เป็นต้นไม้ใหญ่แล้ว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้เวลาหลายปีและใช้คนจำนวนมาก
เราต้องมีความอดทนในการสร้างคน แม้จะต้องใช้เวลา 10 ปี เพื่อให้ได้คนดีก็ยินดี “ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลา 100 ปี สร้างคนดีใช้เวลา 10 ปี”
การที่ต้นไม้จะโตเร็วโตช้า ย่อมขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมที่ดี คนก็เปรียบเช่นเดียวกัน และในขณะเดียวกัน ถ้าจะมองธุรกิจเป็นต้นไม้ ซึ่งจะโตไวโตช้าก็ต้องอาศัย “คน” เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาเช่นกัน
ต้นไม้ “สหพัฒนฯ” เจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขาได้ก็เพราะว่า “คน” ที่เก่งและสามารถทั้งหลายช่วยกันทำนุบำรุง เป็นเรื่องของคนเก่งคนสามารถยอมร่วมแรงร่วมใจกัน
ในแต่ละบริษัทนั้นมีทั้งคนที่สามารถมาก สามารถน้อย มีทั้งคนดี และคนที่มีปัญหา แต่เราจะทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรืองได้ ถ้าหากเรารู้จักใช้ความสามารถของทรัพยากรบุคคลให้เต็มที่ และในขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากทรัพยากกรบุคคลให้ดี
เมื่อบริษัทมีคนมากต้องรู้จักใช้คน ใครมีจุดอ่อนตรงไหนช่วยกันแก้ไขปัญหา ใครมีจุดเด่นอื่นตรงไหน ก็ให้โอกาสแก่เขาตามความสามารถนั้น ส่งเสริมจุดเด่นเขาให้เต็มที่ ให้เขาได้ใช้จุดเด่นของเขาอย่างดีที่สุด ประโยชน์ก็จะเกิดกับบริษัทได้เอง
“ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลา 100 ปี
สร้างคนดีใช้เวลา 10 ปี”
คนทำงานเต็มที่
คนมีมนุษยสัมพันธ์
คนประสานงานกับคนอื่นได้
คนรักการเรียนรู้
คนมีความอดทน
คนมีความสามารถ
คนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ ถือว่า เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลก
..................................................................................................................

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2551

ท่านมีความเห็นอย่างไรที่ สมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี

ผมขอความเห็นหน่อยครับว่า ท่านมีความคิดอย่างไรที่ ท่าน สมัคร สุนทรเวช เป็นนายก ครับ